" ประเภทของอาหารเพื่อสุขภาพ "
นอกจาก Clean Food แล้ว
คุณทราบหรือไม่ว่าในโลกนี้ยังแนวทางการรับประทานอาหารเพื่อสุขที่หลายคนอาจยังไม่รู้จักอีกด้วยนะคะ
ซึ่งจะมีอะไรบ้าง วันนี้แม่บ้านจะนำมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกัน…
Clean Food ปรุงน้อย
ได้ประโยชน์
อันดับ 1
ของแนวทางอาหารเพื่อสุขภาพที่มีผู้คนให้ความสนใจมากที่สุดแน่นอนว่าต้องเป็น Clean Food ซึ่งเป็นหนึ่งในอาหารที่ช่วยควบคุมน้ำหนักที่ใช้กลวิธีการเลือกรับประทานอาหารที่ผ่านการปรุงแต่งรสชาติน้อยที่สุด
หรืออาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูปเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์และคงคุณค่าทางอาหารไว้ได้อย่างครบถ้วนทั้ง
5 หมู่ และต้องไม่มีสารปนเปื้อนใดๆ ทั้งสิ้น
Green Food อาหารเพื่อโลก
ฉลากเขียว
Green Food หรือที่เรียกว่า อาหารฉลากเขียว เกิดจากผู้ประกอบการในวงการอาหารที่พยายามสร้างธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โดยเริ่มจากการทำเกษตรที่ต้องปลอดสารพิษก่อนนำส่งต่อไปยังโรงงานผลิต โดยกระแสอาหาร
Green Food ก็กำลังเป็นที่นิยมไปอย่างกว้างขวางหรือเกือบทั่วโลกเช่นกัน
ซึ่งส่วนมากจะเป็นอาหารจำพวกพืชผักที่เป็นแหล่งของวิตามิน รวมถึงเกลือแร่ที่สำคัญ
และมีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์นั่นเอง
Raw Food เน้นสด ไร้สารเคมีปรุงแต่ง
ถือเป็นหนึ่งในอาหารเพื่อสุขภาพที่มีแนวทางเดียวกันกับ
Clean Food แต่ Raw Food จะเป็นการเลือกอาหารที่เน้นทำจากผัก
ผลไม้ รวมทั้งต้นอ่อนของเมล็ดพืชที่ขึ้นตามฤดูกาล
และต้องไม่ผ่านการปรุงแต่งด้วยแป้ง น้ำตาลหรือแม้แต่ขั้นตอนการปลูกผัก ผลไม้
ก็ต้องไม่ใช้สารเคมีด้วย
นอกจากนี้ยังมีเรื่องการใช้ความร้อนที่ต้องควบคุมไม่ให้เกิน 46องศาเซลเซียส
เพื่อคงคุณค่าทางอาหารของผักผลไม้ เช่น เอนไซม์ วิตามิน
และเกลือแร่ไว้ให้มากที่สุด
Functional Food ปรุงแต่งด้วยสารอาหารเสริม
Functional Food อาจไม่ใช่อาหารเพื่อสุขภาพที่เราจะรู้จักกันมากนัก
แต่ก็เป็นอาหารที่เราได้รับประทานกันอยู่บ่อยๆเพราะมันคืออาหารในกลุ่มของผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มต่างๆ
โดยถูกนำสารอาหารที่มีประโยชน์ใส่เพิ่มลงไปในตัวอาหาร
เพื่อช่วยเพิ่มประโยชน์ให้กับร่างกาย และลดการเกิดโรคต่างๆ แต่ Functional
Food ก็ไม่ใช่อาหารที่มาในรูปแบบวิตามินเสริมหรือแบบแคปซูลใดๆ ทั้งสิ้น
ประโยชน์ของอาหารเพื่อสุขภาพ
อาหารสุขภาพ
ช่วยดำรงส่งเสริมสุขภาพและลดความเสี่ยงของการเกิดโรค สามารถรับประทานได้ในคนปกติ รวมทั้งคนป่วย
เพราะอาจลดความเสี่ยงในโรคที่อาจจะเกิดร่วมขึ้นหรือป้องกันโรคแทรกซ้อนที่จะตามมาหรือทำให้สุขภาพดีขึ้น
ได้ประโยชน์มากขึ้นกว่าผู้ที่ไม่ได้รับประทานอาหารสุขภาพทุกชนิดของกิฟฟารีนมีงานวิจัยถึงคุณประโยชน์อย่างชัดเจนและสามารถแนะนำได้ในหลายโรคด้วยกันเช่น
- เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค
- เพิ่มศักยภาพให้ระบบต่อต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)
- ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจเเละหลอดเลือด
- ลดความเสี่ยงต่อโรคลมปัจจุบัน
- ลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง
- ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคข้อต่ออักเสบ ความเสื่อมเฉพาะจุด เเละโรคต้อกระจก
- ลดความเสี่ยงต่อการเป็นอัลไซเมอร์ พากินสัน โรคหืดหอบ โรคปอด เเละโรคที่เกิดจากความเสื่อมชนิดเรื้อรังอื่นๆ
- พัฒนาการรักษาโรคที่เกิดจากความเสื่อมเรื้อรังอย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ที่ได้รับจากการกินอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน
ผลของร่างกาย
ขนาดของร่างกาย
ปัจจัยที่สำคัญที่มีอิทธิพลต่อร่างกายมีอยู่ 2 อย่าง คือ
พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม ทั้งสองอย่างนี้มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด
เด็กแต่ละคนเจริญเติบโตได้สมบูรณ์ในขอบเขตที่ธรรมชาติกำหนดมากน้องเพียงใดย่อมขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม
และสิ่งแวดล้อมที่ว่านั่นคือ อาหารและโภชนาการ
ซึ่งมีผลที่สำคัญที่สุดต่อขนาดร่างกาย
พันธุกรรมเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
แต่โภชนาการเป็นสิ่งที่มนุษย์สามารถดัดแลงปรับปรุงตามต้องการได้ ตัวอย่างเช่น
การเจริญเติบโตของเด็กไทยที่โตในไทยกับเด็กไทยที่โตในประเทศสหรัฐอเมริกา ปรากฏว่า
เด็กไทยที่โตในสหรัฐอเมริกาจะมีรูปร่างสูงใหญ่กว่าเด็กไทยในประเทศไทย
เนื่องจากอาหารการกินที่ไม่เหมือนกัน
การมีบุตรและสุขภาพของทารก
การกินอาหารให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการทำให้หญิงมีครรภ์มีอัตราเสี่ยงน้อยลงในการคลอดก่อนกำหนดหรือแท้ง
ทั้งยังช่วยให้มารดามีสุขภาพที่ดีด้วย สำหรับทารกก็มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
โดยเฉพาะสมอง มีการเจริญเติบโตอย่างปกติ และมีภูมิคุ้มกันโรคได้ดี
ความสามารถในการต้านทานโรค
ร่างกายของผู้ที่มีโภชนาการที่ดีย่อมมีความสามารถในการต้านทานโรคได้ดีกว่าผู้ที่ขาดโภชนาการที่ดี
เช่น เมื่อร่างกายของผู้ที่มีโภชนาการที่ดีได้รับเชื้อโรค
ก็จะมีการติดเชื่อโรคได้น้อย หรือมีอาการหายป่วยมกกว่าผู้ที่ขาดโภชนาการที่ดี
ความมีอายุยืน และความก้าวหน้าทางสุขาภิบาล
ทางการแพทย์ ทางสาธารณสุข และโภชนาการ เป็นปัจจัยที่ช่วยให้คนเรามีอายุยืนขึ้น
ผลทางอารมณ์และสติปัญญา
การกินอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ
นอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้วยังทำให้มีอารมณ์ดีมีความสามารถในการใช้สมองได้ดี
การเจริญเติบโตของสมองและสติปัญญา
เด็กวัยก่อนเรียนมากมายในประเทศไทย
มีภาวะบกพร่องในการขาดสารอาหารประเภทโปรตีนและแคลอรี่
มีผลทำให้การเจริญเติบโตของเด็กหยุดชะงัก ทางด้านร่างกายเช่น มีขนาดตัวเล็กกว่า
มีสมองเล็กกว่า ทางด้านจิตใจและสติปัญญาเช่น มีความเข้าใจช้า ขาดความกระตือรือร้น
ขาดความคิดริเริ่ม ขาดความสัมพันธ์ระหว่างอวัยวะต่างๆเช่น มือและตา
จากการค้นคว้าหลักฐานจากปัญหาที่ว่า
โภชนาการมีผลต่อการเจริญเติบโตของสมอง ได้ความว่า
การขาดสารอาหารโดยเฉพาะในเด็กตั้งแต่ระยะเดือนท้ายๆของการตั้งครรภ์จนถึงระยะหากเดือนหลังคลอด
มีผลทำให้เซลล์สมองไม่เจริญเติบโตเพราะเซลล์มีการแบ่งตัวน้อยลง
ต้องแก้ไขโดยวิธีเพิ่มอาหารที่มีสารอาหารที่เหมาะสม
แต่ต้องแก้ไขในระยะที่สมองกำลังเจริญเติบโต(ระยะอายุ 1-3 ขวบ)อยู่เท่านั้น ถ้าหลังระยะนี้จะแก้ไขไม่ได้
ผู้ที่ควรดูแลเรื่องโภชนาการให้ดีที่สุดคือ หญิงมีครรภ์ หญิงที่กำลังให้นมบุตร
เด็กในระยะแรกคลอด เด็กในวัยเรียน เพราะเป็นกำลังสำคัญที่จะทำให้ประเทศชาติพัฒนา
คุณภาพในการทำงาน
ผู้ที่ได้รับอาหารย่อมมีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง
ทำให้มีความอดทนในการทำงานมากกว่าผู้ที่ได้รับอาหารที่ไม่ดี ตัวอย่างเช่น
ในโรงเรียน มีนักเรียนสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งกินอาหารเช้า ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งไม่ได้กิน
มีผลคือ กลุ่มที่กินอาหารเช้ามีประสิทธิภาพในการเรียนสูงกว่าอีกกลุ่ม
จึงสรุปได้ว่า การขาดอาหารเพียงมื้อเดียวก็มีผลเสีย
ซึ่งเป็นปัญหาอันใหญ่หลวงแก่นักเรียน เช่นเกิดโรคกระเพาะ เรียนหนังสือได้คะแนนไม่ดี
หรือเกิดปัญหาร้ายแรงอื่นๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น